วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2552

(ชวนสาว) ออกเดท (Date)


คำว่า “ออกเดท” ภาษาไทยเราไม่มีคำเฉพาะ แต่มักใช้คำว่า “ไปเที่ยว (กับแฟน)” หรือที่ยอมรับขึ้นมาหน่อยก็คือพูดทับศัพท์เสียดื้อๆ ว่า “ออกเดท”
คำว่า “ออกเดท” ในภาษาอังกฤษ หมายถึงการที่หนุ่มสาวออกไปเที่ยว 2 ต่อ 2 ซึ่งการออกไปนี้อาจจะออกไปทานข้าว ดูหนัง ฟังเพลง เต้นรำ หรือทำกิจกรรมต่างๆ นอกบ้าน ในใจหมายมั่นว่าอีตาหน้าจืดคนนี้หรือน้องหมวยคนนี้อาจเป็นแฟนเราในอนาคต พูดง่ายๆ ก็คือมีอารมณ์โรแมนติกเข้ามาเกี่ยวข้อง การออกเดทนี้เป็นขั้นตอนก่อนมาเป็นแฟนกันนะครับ พอเป็นที่ยอมรับว่าเป็นแฟนกันแล้ว จะไม่มีการออกเดทกันต่อไป แต่เป็นการไปเที่ยวฉันแฟนหรือคู่รักกัน ก้าวสู่อีกระดับหนึ่ง
ต่างกับการไปเที่ยวกับเพื่อนนะครับ เพราะถ้าไปเที่ยวกันฉันเพื่อน จะไม่มีความรู้สึกฉันชู้สาว ไม่มีบรรยากาศโรแมนติกเข้ามาเกี่ยวข้อง พูดง่ายๆ ก็คือ .... มันไม่มีการสปาร์คกันนั่นเอง มีความรู้สึกเฉยๆ คบเหมือนเพื่อนหรือคนรู้จักกัน เท่านั้น
คำว่า “ออกเดท” ในภาษาอังกฤษ มีวิธีพูดต่างกัน หลายสไตล์ ดังนี้

date someone หมายถึง หนุ่มสาวออกเดทไปเที่ยวกัน
He is dating his former wife again!
(เขาออกเดทกับอดีตภรรยาเขาอีกแล้ว
I dated her when we were in high school. หรือ Tonight she is dating a former high school sweetheart
(ผมออกเดทกับเธอตั้งแต่เรียนอยู่ ม.ปลายโน่น)
อย่างนี้แหละครับที่ฝรั่งเรียกว่า high school sweetheart (คือเป็นแฟนกันตั้งแต่ตอนวัยรุ่นไร้เดียงสาในเรื่องความรักอยู่ มักจะเป็นความรักแบบบริสุทธิ์ เป็นความรักที่หวานจ๋อย คือต่างฝ่ายต่างยังอ่อนประสบการณ์กัน ตอนนั้นยังไร้มายากัน และเป็นความรักที่มักฝังอยู่ในความทรงจำนานแสนนาน บางคนแม้ยามแก่เฒ่าก็ยังไม่เคยลืมเลือน (ถ้าความจำดี))

have a date หมายถึง มีนัดไปเที่ยวกะหนุ่มหรือสาว (แฟน)
I have a date tonight. (คืนนี้เราจะไปเที่ยวกะแฟน)

go on date หมายถึง มีนัดไปเที่ยวกะ แฟน
อย่างเช่น เพื่อนสาวร่วมห้องของเราเคยแต่แต่งตัวเป็นยายเพิ้ง แต่วันนี้กลับแต่งตัวสวยตั้งแต่หัวจรดเท้า มีการแต่งหน้าทาปากแดงแจ๋ ชุดที่แต่งก็เริ่ดเป็นพิเศษ แบบนี้เข้าข่ายน่าสงสัย เพื่อให้หายข้องใจต้องถามไว้ก่อน Where are you going? (นี่เธอ ... จะไปไหนเหรอ)
... แบบว่าไม่ค่อยอยากรู้เรื่องคนอื่นสักเท่าไหร่หนะ แหะๆๆๆ
I’m going out on a date tonight.
(คืนนี้มีนัดไปเที่ยวกับหนุ่มนะ)

(be) on a date หมายถึง มีนัดไปเที่ยวกะหนุ่ม (แฟน)

ask out หมายถึง ชวน (หนุ่มหรือสาว) ออกเดทด้วย มักใช้ในรูปของ ask someone out คำคำนี้ใช้เมื่อชวนแฟนไปเที่ยวเท่านั้น อย่าเผลอไปใช้กับเพื่อนเด็ดขาด เพราะความหมายของคำว่า ask out มีเรื่องของโรแมนติกเข้ามาเกี่ยวข้อง
อย่างเช่น If you like Joyce, why don’t you ask her out?
(เมื่อคุณชอบจอยซ์ ทำไมไม่ชวนเธอไปเที่ยวละครับ)
สงสัยแรงยุได้ผล ปรากฏว่าอีก 2 วันต่อมา เพื่อนมาบอกว่า I finally asked her out, and she said yes!
(ในที่สุดผมขอเอ่ยปากชวนจอยซ์ออกเดท และเธอก็รับปาก)
สมัยก่อน ผู้ชายมักจะเป็นฝ่ายชวนผู้หญิงออกไปเที่ยว ในโลกปัจจุบัน ทุกอย่างเปลี่ยนไป ผู้หญิงหลายคนคิดแบบคนสมัยใหม่ว่าถ้ารักชอบใครก็ควรต้องบอกต้องแสดงออก ขืนมาทำท่ากระมิดกระเมี้ยนเดี๋ยวจะไม่ทันการ อาจถูกสาวอื่นคว้าไปกินเสียก่อน ผู้หญิงในปัจจุบันหลายคนจึงเป็นฝ่ายชวนผู้ชายออกเดท
Nowadays, girls often ask boys out.

go out หรือ ask someone to go out หรือ go out together หมายถึงการชวน (หนุ่มหรือสาว) เพื่อออกเดท และอาจใช้กับการชวนพรรคพวกเพื่อนฝูงไปเที่ยวด้วยกัน
อย่างเช่น เจอสาวเป็นที่ถูกตาต้องใจ (แต่ยังไม่ได้ถูกกาย) อยากจะนัดไปดูหนังหรือร้องเพลงคาราโอเกะด้วย อาจจะชวนสาว (ชวนแฟน) แบบสุภาพๆ ว่า

Did you ask someone out on a date? (นี่คุณชวนใครออกเดทบ้างหรือเปล่า)
Would you like to go out together sometime? (นี่เธอจ๋า แบบว่าอยากจะไปเที่ยวกันบ้างไหม)
Could we go out together sometime?
Ning, would you like to go out to dinner with me tonight? (น้องหนิงจ๋า คืนนี้เราไปเที่ยวด้วยกันไหมจ๊ะ)
I was wondering if you’d like to go out? (อยากไปเที่ยวกับผมไหมครับ)
Would you like to go out with me?
ส่วนกรณีที่ชวนเพื่อนๆ ไปเที่ยวกัน ก็เช่น คืนนี้ภาพยนตร์ Rush Hour 3 จะเข้าฉายเป็นรอบปฐมฤกษ์ เพื่อให้สนุกก็ต้องชวนเพื่อนไปกันหลายๆ คน Let go out to a movie tonight? (คืนนี้เราไปดูหนังกันดีกว่า)
ตกลงๆๆๆ ไปไหนไปด้วย ขอช่วย (หนึ่ง) บาท

take someone on a date หมายถึงพาออกเดท
Lately, I’ve been taking out Nancy.
(ช่วงนี้ผมพาแนนซี่ออกเดท)

ต่อไปนี้ เป็นคำชวนขอออกเดท ชวนไปเที่ยวแบบ 2 ต่อ 2 ลองฝึกๆ ไปขอสาวฝรั่งเดทดูซิครับ ผู้เขียนขอมอบให้เป็นเคล็ดจีบสาว ไม่ใช่อะไรดอก ... เก็บไว้หลายสิบปีจนแก่เกินกว่าสาวจะมองแล้ว ก็ขอให้คนรุ่นใหม่เอาไปใช้ให้เป็นประโยชน์มั่งดีกว่า
Are you free on .... ? วัน ….นี้ .... คุณว่างไหม จะเป็นวันไหนที่เราต้องการก็ระบุไป เช่น Are you free on Saturday night? (คืนวันเสาร์ คุณว่างไหมครับ)

Are you busy on ...? วันที่ .... คุณติดธุระต้องทำอะไรไหม อันนี้ก็เช่นกัน เราต้องระบุวันไป เช่น Are you busy on January 1st? (วันที่ 1 มกราฯ คุณมีอะไรต้องทำไหม) หรือ Are you busy tomorrow? (พรุ่งนี้ว่างไหม)

What’re you doing this weekend? (วันหยุดนี้ คุณว่างไหม)

What’re you up to this Sunday? (วันอาทิตย์นี้คุณต้องทำอะไรหรือเปล่า คือถามว่าว่างหรือเปล่า)

Would you like to go to dinner? (คุณอยากไปทานข้าวข้างนอก (ด้วยกัน) ไหม)
Could I take you out to ....?
เช่น Could I take you out to dinner? (ผมขอพาคุณไปทานข้าวข้างนอกด้วยกันได้ไหมครับ)
Could I take you out to the movie? (ไปดูหนังกับผมไหมครับ)
I was wondering if you’d like to see a movie? (ไม่ทราบว่าคุณอยากไปดูหนังไหมครับ)
Can I ask you out? (ผมขอชวนคุณไปเที่ยวได้ไหม) อันนี้เป็นการชวนแบบเกรงใจนิดๆ
If you don’t have any plans for tomorrow night, would you like to a party with me? (ถ้าคุณไม่มีโครงการทำอะไรในวันพรุ่งนี้ อยากไปงานปาร์ตี้กับผมไหม)
If you’re not doing anything tomorrow night, would you like to go to a party with me? (ถ้าพรุ่งนี้คุณไม่มีอะไรทำ ไปปาร์ตี้กับผมไหม)

2 ความคิดเห็น:

  1. Blog นี้มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ นั่งอ่านได้ทั้งวันเลย เพราะไม่เข้าใจเลยต้องอ่านซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ แหะๆ แต่สับสนอยู่ประโยคนึงค่ะที่เวลาชาวต่างชาติถามว่า Are you dating? มีความหมายว่า คุณออกเดทรึป่าว ไม่ทราบว่าถ้าเค้าถามแบบนี้มันมีความหมายเป็นนัยๆรึป่าว ว่าเค้าจะชวนออกเดท ก็งงๆ ไม่รู็ว่าแปลถูกมั้ย ยังไงถ้ามีเวลาช่วยกรุณาตอบให้ทีค่ะ

    ตอบลบ
  2. ขอ ถามนะ คะ ถ้าผช ฝรั่งบอกเรา ว่า I could date you หมายความว่าไงคะ คือเจอกันสองครั้งก่อนหน้านี้ เเต่เเค่เจอกันนะ ไม่ได้จับไม้จับมืออะไร หลังจากนั้นเค้าบอกว่า I could date you มันหมายความว่าไงคะ

    ตอบลบ