วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ก่อนเป็นความรัก ...


ก่อนเป็นความรัก ... เพียงแค่ชอบพอ
ความรักเป็นความรู้สึกความสัมพันธ์จากใจ รักต้องมาจากใจ ..... ไม่ใช่เกิดจากกระเป๋าตังค์
เรื่องความรักพวกนี้ผู้เขียนไม่ค่อยถนัด ไม่ค่อยสันทัด เพราะด้อยประสบการณ์ จึงไม่ขอพรรณนาให้ยืดยาวนะครับ ไม่ใช่อะไรหรอกคงจะเลยวัยไปหน่อย จะพูดแต่ละทีก็กระดากปาก
... แต่รักพวกนี้ผู้เขียนชอบนะครับ เช่น รักที่จะกิน รักที่จะนอน รักไปเที่ยว รักสบาย


... ที่สำคัญรักตัวกลัวตาย ขอรับ


ความรักมีหลายประเภท แล้วแต่ความรู้สึกและความสัมพันธ์ของแต่ละคน อย่างเช่น รักแบบพ่อแม่ รักแบบพี่น้อง รักแบบเพื่อนฝูง รักตัวเอง (Self-love) รักแบบเด็กๆ แบบบริสุทธิ์ไร้เดียงสา (Puppy love) รักแบบแฟน รักแรก (First Love) รักแท้ (True Love) รักแรกพบ (Love at first sight) .... ส่วนลักขโมยไม่เกี่ยวนะครับ

วันนี้เรามาดูเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของฝรั่งเขาดีกว่า


คำต่อไปนี้ เป็นคำที่มีความหมายว่า “ชอบพอ” แต่ยังไม่แข็งแรงถึงขั้นเรียกว่า “รัก” นะครับ เป็นความรู้สึกแค่ชอบพอเฉยๆ

(be) interested in หมายถึงให้ความสนอกสนใจในตัวผู้ใดผู้หนึ่งเป็นพิเศษ เป็นความรู้สึกพิเศษนอกเหนือไปกว่าเพื่อนธรรมดา เหนือคนอื่น ก็เหมือนที่วัยรุ่นคุยกันในกลุ่มเพื่อนว่าชอบคนนั้นชอบคนนี้


อย่างเช่น เพื่อนเรา 40 แล้ว ยังเวอร์จิ้นอยู่เลย เราใคร่รู้ว่าเพื่อนมีแฟนหรือยัง อาจถามเพื่อนว่า Are you interested in anyone right now? (ตอนนี้แกไปติดอกติดใจใครบ้างหรือเปล่า)


I am interested in her, but I she just wants to be friends, nothing more.
(ผมสนใจในตัวเธอคนนั้นนะ แต่รู้สึกคุณเธอต้องการเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น ห้ามเลยไปกว่านั้น)

(be) attracted to หมายถึง เป็นที่ถูกตาต้องใจหรือเป็นที่ชอบพอ มีเสน่ห์เป็นที่ดึงดูดใจ
อย่างเช่น ถามเพื่อนว่าชอบผู้หญิงประเภทไหนเหรอ What kind of girls are you attracted to? ประเภทขาว สวย หมวย อึ๋ม หรือเปล่า อะไรทำนองนั้น


ปรากฏว่าเพื่อนดันตอบว่า ... ต้องสวยและโง่ ที่สำคัญพ่อตาตายแม่ยายรวย
.... เหอะๆๆๆ เพิ่งรู้ว่ามีสเป็คอย่างนี้ด้วย ดูๆ แล้วเข้าท่าเหมือนกันนิ

have a chemistry หมายถึง เข้ากันได้ดี ให้ความรู้สึกพิเศษ มักใช้กับคนที่เราเพิ่งคบหรือเพิ่งรู้จักกันใหม่ๆ ก็เกิดการสปาร์คกันซะแล้ว วัยรุ่นสมัยผู้เขียนเรียกว่า “ปิ๊ง” ไม่รู้ว่าวัยรุ่นปัจจุบันเรียกว่าอะไร


ปกติคำว่า chemistry แปลว่า เคมี ฉะนั้น คำว่า have a chemistry อย่าไปหลงแปลว่า มีเคมีอะไรทำนองนั้นนะครับ ตามความเข้าใจของผู้เขียนประสาชอบมั่ว (คือแปลมั่วนะครับ) เดาว่าเมื่อหนุ่มสาวปิ๊งกัน ชอบพอกัน พอสบตากันก่อให้เกิดความตื่นเต้น มือสั่น ใจสั่น มือเท้าอ่อน ร่างกายก็เลยหลั่งสาร (เคมี) ออกมาก ทำให้เราเกิดความรู้สึกรักใคร่พิศวาสที่ได้อยู่ใกล้เขาคนนั้น


... เป็นไง มั่วเก่งไหม นี่ขนาดจบมาทางกฎหมายนะนี่ ยังดำน้ำเก่งเลย ถ้าจบมาทางเคมีคงมั่วเก่งกว่านี้
We went out a few times, but there was no chemistry.


(เราไปเที่ยวกัน 2-3 ครั้งแล้ว แต่ยังไม่สปาร์คกันเลย) พูดง่ายๆ ก็คือ (อีตาคนนี้) ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเลย ไม่มีอารมณ์ตอบสนอง เป็นแค่เพื่อนเท่านั้น

have a thing for หมายถึง ติดตาต้องใจ มีความรู้สึกในแนวโรแมนติก
I definitely have a thing for her. (แน่นอน ผมชอบเธอนะ)

hit it off หมายถึง เข้ากันได้ดี ถูกคอกัน มักใช้แสดงความรู้สึกเมื่อพบหรือออกเดทกันเป็นครั้งแรก ส่วนใหญ่มักใช้ว่า hit it off well (ไปด้วยกันได้ดี) หรือ didn’t hit off well (ไปด้วยกันไม่ได้)

จากชอบ เริ่มซีเรียส

ครับ เมื่อคนเรารู้จักกัน คบกัน ชอบพอกัน เข้ากันได้ดี ต่อไปก็อาจพัฒนาจากการคบแบบเป็นเพื่อนหรือคนรู้จักกัน เริ่มซีเรียส เริ่มมีใจให้ แต่ยังไม่พัฒนาการเป็นความรักแบบสมบูรณ์แบบ


sweet on หมายถึง รักชอบลุ่มหลง คลั่งไคล้หรือรู้สึกเป็นห่วงเป็นใย


Pat must be sweet on Elle, he’s always calling her. (สงสัยอีตาแพ็ทคงชอบพอยายแอลล์นะ เห็นโทรหาจังไม่เคยขาด)

crazy about หรือ crazy for หมายถึง คลั่งไคล้ (แบบชู้สาว), เห่อ (สาว), หลงใหลในตัว (เขา), หลงเสน่ห์ (เขา)


Pat’s been crazy for Elle since the day he met her.
(อีตาแพ็ทหลงใหลคลั่งไคล้ในตัวยายแอลล์ตั้งแต่วันที่พบกัน)

have a crush on หมายถึง รักชอบคลั่งไคล้แบบชั่วขณะ เป็นการลุ่มหลง (ชั่วคราว) มักเป็นการแอบชอบหรือหลงใหลเคลิบเคลิ้มในตัวดารา นักร้อง เจ้านาย เพื่อนร่วมชั้น อะไรทำนองนี้


I had a crush on her since high school. (ผมชอบเธอตั้งแต่สมัยอยู่ไฮสกูลแล้ว)

dig someone หมายถึง หลงใหล เคลิบเคลิ้มใน ...
อย่างเช่น เราต้องการบอกว่าเราลุ่มหลงในตัวสาว อาจหยอดว่า I dig you. You’re really cute. (เราชอบตัวนะ ตัวนะน่าร้าก.... น่าลาก)


แต่ถ้าสาวรู้จักแต่ว่าคำว่า dig แปลว่า “ขุด” อย่างเดียว ไม่รู้ว่าแปลว่าหลงชอบได้ด้วย คุณเธออาจจะแปลไปเป็นอย่างอื่น อย่างนี้ถือว่าเป็นความซวยส่วนพระองค์ก็แล้วกันที่คุณเธอไม่เก็ท แนะนำว่าให้เอาบทความนี้ให้เธออ่าน


มาลองดูอีกประโยค We’re not in love, but we really dig each other. (แบบว่าเราไม่ถึงกับรักกันนะ แค่คลั่งไคล้กันเฉยๆ นะ)


วันนี้ ความสัมพันธ์เริ่มแค่ชอบพอกันก่อนนะครับ คราวหน้าผู้เขียนขอเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องความรักสักวัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น