จีบ ... แปลว่าอะไร
คนไทยรุ่นน้องรุ่นหลานหลายคนชอบถามผู้เขียนอยู่เรื่อยว่าคำว่า “จีบ” ... ภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร
ผู้เขียนก็มักตอบแบบยียวนกวนอารมณ์ (ดี) ว่า จะเอาจีบไหนเหรอ .... จีบสาวหรือจีบเสื้อผ้า
คนไทยรุ่นน้องรุ่นหลานหลายคนชอบถามผู้เขียนอยู่เรื่อยว่าคำว่า “จีบ” ... ภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร
ผู้เขียนก็มักตอบแบบยียวนกวนอารมณ์ (ดี) ว่า จะเอาจีบไหนเหรอ .... จีบสาวหรือจีบเสื้อผ้า
ถ้าจีบสาวส่วนใหญ่ใช้คำว่า court และ woo ขอรับ ส่วนจีบเสื้อผ้าก็คือคำว่า pleat (จีบ รอยพับผ้า)
วันนี้เรามาคุยกันเรื่องจีบสาวนะครับ
คำว่า court ที่แปลว่าศาลนั่นแหละครับ แต่นั่นเป็นคำนาม เมื่อเป็นคำกริยา คำว่า court มีความหมายว่า จีบ เกี้ยวพาราสี ขอความรัก
We were courting for over ten years.
(เราเกี้ยวพาราสีกันมากว่า 10 ปีแล้ว)
ว้าว! จีบกันมากกว่า 10 ปี ขนาดผู้เขียนจีบสาวไม่เก่ง แต่ยังไม่เคยใช้เวลาถึง 10 ปีเลย ไม่ใช่อะไรดอกครับ ... รอไม่ไหว อย่างนี้ต้องขอชมเชยในความรักจริงและความพยายาม
John is courting Mary.
(จอห์นกำลังจีบแมรี่อยู่)
ส่วนคำว่า woo นั้น ก็แปลว่าจีบ เกี้ยวพาราสี ขอความรัก ได้เช่นกัน ความหมายจริงๆ ก็คือ ขอความรักหรือขอแต่งงาน
คำว่า flirt ก็แปลว่า จีบ เกี้ยวพาราสี ได้เช่นกัน แต่เป็นการจีบแบบเล่นๆ ไม่จริงจัง ภาษาไทยเราใช้ทับศัพท์ แปลว่า ให้ท่า (ผู้ชาย)
อย่างเช่น Are you trying to flirt with me?
(นี่คุณกำลังเกี้ยวพาราสีฉันเหรอ) คำคำนี้ได้ยินในหนังบ่อยๆ
My husband never flirts with other women.
(สาละมีของฉันไม่เคยขายขนมจีบใครเลย)
... ครับ เชื่อครับๆๆ
คำว่า chat up บางครั้งก็ใช้ในความหมายว่าจีบ เกี้ยวพาราสี ได้เช่นกัน
The guys always try to chat up the new secretaries.
(เหล่าผู้ชายมักจะตามจีบเลขานุการคนใหม่)
อีกคำหนึ่งที่พอโมเมแปลว่าจีบได้ ก็คือคำว่า sweet talk หรือตามที่พี่ไทยชอบเรียกว่า ปากหวาน
แต่ขอบอกไว้ก่อนนะครับว่า 20 กว่าปีที่อยู่อเมริกามาตลอด ผู้เขียนแทบจะไม่เคยได้ยินฝรั่งชวนกันไปจีบสาวเลย
ทำไมหรือครับ
ทั้งนี้ เป็นเพราะความต่างวัฒนธรรมกันขอรับ
ฝรั่งอเมริกันไม่ค่อยมีประเภทจีบมั่ว จีบดะ เจอหน้าจีบ สวยหน่อยจีบ รวยหน่อยจีบ (ที่จริงต้องรวยมากซิถึงจะน่าจีบ) เด็กหน่อยจีบ จีบนักร้อง จีบสาวเสิร์ฟ จีบแม่ค้า ... ไอ้ที่เช้าถึงเย็นถึงแบบพี่ไทย ประเภทตื๊อเท่านั้นที่ครองโลกอะไรทำนองนั้น ฝรั่งเขาไม่มีกัน
เพราะอะไรหรือ
... เพราะที่อเมริกา ถ้าผู้หญิง say NO เพียงคำเดียว ขอบอกก่อนให้รีบถอยไปตั้งหลักไกลๆ เลย เพราะถ้ายังขืนตามไปตอแยอีก จะถือคติตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก รับรองคุณเธอเรียกตำรวจแน่
เป็นไงครับ วัฒนธรรมเขาเจ๋งไหม
เชื่อไหมฝรั่งเขาจีบสาวไม่เก่ง สู้พี่ไทยเราไม่ได้ อันนี้ผู้เขียนขอเอาเท้ายัน .... แบบว่าพอรู้นะ เพราะอยู่ทั้ง 2 ประเทศมาพอๆ กัน
หลายท่านคงงงว่า ... อ้าว ฝรั่งมันไม่จีบกัน ไหงมีลูกเป็นโขยง
อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะครับ ผู้เขียนไม่ได้บอกว่าฝรั่งไม่มีการจีบกัน เพียงแต่บอกว่าเขาไม่มีวัฒนธรรมการไปจีบสาวเหมือนเมืองไทย เขาถึงไม่ค่อยได้ใช้คำนี้กัน
... และเขามีวิธีการจีบสาวที่ต่างไปจากพี่ไทยเราประเภทหน้ามือกับหลังมือ
อย่างเช่นผู้เขียนมีลูกชายถึง 3 พระหน่อ เชื่อไหม ... เอาทั้ง 3 คนมารวมกัน ยังจีบสาวสู้ผู้เขียนไม่ได้เลย ฮิๆๆๆ (ขี้โม้ซะไม่มี) ... อันนี้พูดถึงจีบสาวไทยนะครับ
เพราะอะไรหรือ เพราะผู้เขียนเป็นคนไทย เกิดเมืองไทย คุ้นเคยเมืองไทย ... จึงรู้วิธีจีบสาวไทย ส่วนลูกชายผู้เขียนแม้จะเกิดเมืองไทย แต่ทุกคนมาอเมริกาตั้งแต่เล็ก จึงไม่คุ้นเคยอะไรๆ ของเมืองไทย ... สไตล์การจีบสาวของเด็กๆ จึงเป็นแบบฝรั่งไปหมด ทุกคนจึงมีแฟนเป็นฝรั่ง
... ซึ่งผู้เขียนก็ได้แต่นั่งน้ำลายไหล ... แบบว่านั่งภูมิใจในสายเลือดของตัวเอง ในใจชมว่า ... เก่งเหมือนพ่อนิ
สไตล์การจีบของฝรั่งนะเหรือ ... เห็นสาวถูกใจ พี่แกตรงเข้าไปแนะนำตัวคุยด้วยเสียดื้อๆ ... ก็แบบที่เห็นในหนังนั่นแหละครับ หรือไม่ถ้าสาวเกิดปิ๊งขึ้นก่อน ... สาวก็จะเดินมาคุยกับเราดื้อๆ เหมือนกัน
... และคืนนั้นอาจลงเอยไปนอนด้วยกัน
เป็นไง ไหวไหมครับพี่ไทย
... สไตล์พี่ไทยนะหรือ ... ต้องแอบมอง (แต่แกล้งให้คุณเธอรู้) หรือส่งเพื่อนไปทาบทามขอเบอร์ อะไรทำนองนั้น
ก็แค่นั้นเองแหละครับที่ต่างกัน ต่อเมื่อรู้จักกันแล้วอะไรๆ มันก็ง่ายขึ้น ซึ่งถ้าจะว่ากันแล้วเทคนิคการจีบสาวคนไทยเราน่าจะเก่งกว่าฝรั่งอยู่หลายขุม
... เอาใจเก่งกว่า จ่ายไม่อั้นกว่า (จีบสาวไทยเราต้องควักกระเป๋าลูกเดียว ใช่ไหมครับ แต่เชื่อไหมฝรั่งจีบกัน เห็นอยู่บ่อยๆ ว่าต่างคนต่างออกจ่ายใครจ่ายมัน) พี่ไทยปากหวานกว่า
... เสียอยู่หน่อยก็คือตัวเราเล็กกว่า อีกอย่างภาษาเราไม่ดีพอเลยไม่กล้าจีบ ชายไทยที่มีแฟนเป็นฝรั่งจึงไม่ค่อยได้เห็น
อันนี้ไม่ได้หมายความว่าไม่มีนะครับ ผู้เขียนมีเพื่อนคนไทยที่มีแฟนเป็นผู้หญิงอเมริกันก็หลายคนอยู่ แต่ยังไงๆ ก็ยังน้อยอยู่ดีเมื่อเทียบกับผู้หญิงไทยมีแฟนเป็นฝรั่ง
วันนี้เลยไม่เป็นอันเรียนภาษากันเลย ดันออกนอกเรื่องไปเสียนี่ คราวหน้ามาคุยกันเรื่องออกเดทกันหน่อยนะครับ
สวัสดีครับ
ผมใช้คำว่า hit on แทนครับ :D
ตอบลบได้ความรู้ ความเข้าใจดีคะ ขอบคุณคะ
ตอบลบ