การสะกดชื่อตนเองเป็นภาษาอังกฤษฟังแล้วดูง่ายดี ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
แต่ทราบไหมครับ ถ้าจะบอกว่าเราคนไทยมีปัญหาเรื่องการสะกดชื่อเป็นภาษาอังกฤษมากที่สุด ไม่ใช่หมูอย่างที่คิด การสะกดชื่อในที่นี้หมายถึงสะกดชื่อตนเอง (หรือผู้อื่น) ชื่อสถานที่ คนไทยที่อาศัยอยู่ในอเมริกาย่อมรู้ซึ้งถึงปัญหานี้ดี จะสะกดชื่อนามสกุลของตนเองแต่ละทีต้องใช้เวลานานแสนนาน บางคนคุยกันไม่รู้เรื่องเลย
ทำไมหรือครับ มีปัญหาอะไรกันหนักกันหนา
ปัญหาแรกก็คือ ชื่อพี่ไทยเราแต่ละคนต่างวิจิตรมาหรา ชื่อแต่ละชื่อแปลกพิศดารในสายตาฝรั่งเขา บางชื่อยาวกว่าขบวนรถไฟสายใต้ซะอีก ชื่อสั้นๆ มีกันซะเมื่อไหร่ เวลากรอกเอกสารแต่ละที บางครั้งเขียนได้แค่ชื่ออย่างเดียวก็เต็มช่องที่เขาให้ไว้แล้ว ผิดกับชื่อฝรั่งปกติก็สั้นๆ และซ้ำๆ ซากๆ เช่น Robert, John, Paul, Mary เป็นต้น
ปัญหาที่ 2 ก็คือเราเคยชินกับภาษาอังกฤษแบบไทยๆ ออกเสียงแบบไทย การออกเสียงภาษาอังกฤษสไตล์ไทยบางอย่างที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็ก พูดผิดจนคิดว่าถูก เราฟังจนคุ้นกับสำเนียงไทยเรา ครั้นพอเราไปพูดให้ฝรั่งเจ้าของภาษาฟังโดยใช้เอ๊กเซ่นต์ไทย เชื่อไหมเขากลับทำหน้า Question Mark ไม่เข้าใจ โดยเฉพาะเจ้าตัว f, h, l, r, s, v, w, z ฤทธิ์มากนักแล เรามักจะออกเสียงไม่ถูกกัน พูดทีใด ฝรั่งเป็นอันต้องถาม What! ทุกทีไป
ขอบอกก่อนนะครับพยัญชนะภาษาอังกฤษ 24 ตัว เราออกเสียงถูกต้องประมาณแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น
อีกทั้งพยัญชนะบางตัวออกเสียงคล้ายกัน เช่น b กับ p, m กับ n, h กับ s, d กับ t และอื่นๆ อีกมาก คำเหล่านี้ทำให้สับสนได้ง่าย บอกตัวหนึ่งฝรั่งฟังเป็นอีกตัวหนึ่ง สุดยอดเลย
ส่วนท่านที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์คุยกับฝรั่งมากพอ มักจะสะกดชื่อเสียอย่างรวดเร็ว บางคนสะกดรวดเดียวจบคิดว่าฝรั่งเข้าใจ อันนี้เป็นแทบทุกคน อันนี้ขอบอกนะครับว่าเข้าใจผิดถนัด ยิ่งเป็นฝรั่งด้วยแล้วยิ่งต้องบอกช้าๆ ชัดๆ
อีกปัญหาซึ่งก็เป็นปัญหาใหญ่ก็คือพี่ไทยเราเวลาบอกตัวสะกดมักจะไม่รู้ยกตัวอย่างคำ (word) อันนี้ว่ากันไม่ได้เพราะธรรมเนียมของเรามันไม่ต้องยกตัวอย่างนี้ เช่นคนชื่อ กนก .... เราไม่สะกดว่า ก เหมือน ก.ไก่, น เหมือน น. หนู, ก เหมือน ก.ไก่ .... อะไรทำนองนี้
แล้วทีนี้เราจะแก้ไขได้อย่างไร จะทำอย่างไรถึงจะบอกตัวสะกดเพียงครั้งเดียวฝรั่งเข้าใจ
ปัญหาแรก ชื่อไทยยาว สะกดยาก คนไทยหลายคนมาถึงอเมริกาแก้ไขโดยการเปลี่ยนชื่อเป็นฝรั่งทันที อย่างเช่นลูกชายผู้เขียนชื่อปัฐพงศ์ เปลี่ยนเป็น ชื่อ Pat ชื่อเอก ก็เปลี่ยนเป็น Ed อะไรทำนองนี้
ปัญหาที่ 2 ออกเสียงพยัญชนะไม่ถูกต้อง ก็แก้ได้ด้วยการฝึกออกเสียงพยัญชนะให้ถูกต้อง ตัวไหนออกเสียงไม่ได้ ก็ให้หัดฝึกพูดๆๆๆๆๆๆ จนคล่องปาก ทุ่มเวลาให้มันสักวันก็บรรลุอรหันต์แล้ว ตัวอักษรภาษาอังกฤษมีแค่ 24 ตัวเอง ออกเสียงให้ถูกต้องไม่ได้ทั้งหมดก็ให้มันรู้ไป วันเดียวขอให้จบกันไปเลย หมดปัญหาไปตลอดชาติ
อีกอย่างเวลาสะกดชื่อ กรุณาบอกช้าๆ ทีละตัว ขอให้คิดว่าฝรั่งมันไม่เก่งภาษาอังกฤษก็แล้วกัน บอกไปช้าๆ ชัดถ้อยชัดคำ ที่เตือนกันเพราะบางท่านถึงขนาดตื่นเต้นจัด เลยพูดซะเร็วปรื๋อ ผลก็คือ ยิ่งเร็วก็ยิ่งช้า ... ก๊ากๆๆๆ
ส่วนกรณียกตัวอย่างคำ อันนี้ว่าไปแล้วก็ง่ายนะครับ เพราะมันแทบจะเป็นสูตรตายตัวกันเลย ใช้กันเกือบเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ จำได้หมดก็สบายไป หลักก็คือให้บอกคำตัวอย่างที่รู้จักกันทั่วไป จะเป็นคำอะไรก็ได้ที่ฟังแล้วรู้ว่าหมายถึงอะไรทันที ไม่สับสนง่าย แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นชื่อคน ดังนี้
A ….. like apple (หรือถ้ายกตัวอย่างเป็นชื่อคน อาจใช้ Andrew )
B ….. like boy (ชื่อคน ให้ใช้ Bob)
C ….. like cat (ชื่อคน ให้ใช้ Charlie)
D ….. like dog (ชื่อคน ให้ใช้ David)
E ….. like Edward (ชื่อคน)
F ….. like Frank (ชื่อคน)
G ….. like George (ชื่อคน)
H ….. like ……. (ชื่อคน ให้ใช้ Henry)
I ….. คำคำนี้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
J ….. like Jack (ชื่อคน)
K ….. like King
L ….. like Larry (ชื่อคน)
M ….. like Mary (ชื่อคน)
N ….. like Nancy (ชื่อคน)
O ….. like ปกติแล้วฝรั่งจะไม่สับสนคำนี้ ฉะนั้น อาจจะไม่ต้องบอกคำตัวอย่างไปก็ได้ (หรือถ้าต้องการบอกคำตัวอย่าง ก็อาจใช้ คำว่า Olive หรือ Oliver (ชื่อคน) ก็ได้)
P ….. like Peter (ชื่อคน)
Q ….. like Queen
R ….. like Robert (ชื่อคน)
S ….. like sugar (ชื่อคน ให้ใช้ Sam) คำคำนี้แนะนำให้ใช้ Sam จะง่ายกว่า เพราะคนไทยเรามีปัญหาไม่สามารถออกเสียงคำว่า sugar ให้ถูกต้องได้ มิฉะนั้น จะยิ่งสร้างความสับสนยิ่งขึ้น
T ….. like Tom (ชื่อคน)
U ….. like uncle
V ….. like Victor (ชื่อคน)
W ….. like William (ชื่อคน)
X …..
Y ….. like yellow
Z ….. like Zebra
อนึ่ง คำว่า like อาจใช้ for แทนได้
ตัวอย่างเช่น ผู้เขียนชื่อ Tripop Suwansupa
ให้สะกดดังนี้ T like Tom, R like Robert, I like ….., P like Paul, O like Olive, P like Paul …… ก็ไล่สะกดไปเรื่อยๆ นะครับ อย่าลืมสะกดช้าๆ นะครับ
ที่ต้องระวังอีกนิดก็คือกรณีที่ตัวอักษรซ้ำกัน 2 ตัว ถ้าเป็นภาษาอังกฤษแบบอังกฤษแท้แล้ว กรณีนี้ ... ให้ใช้คำว่า double แทน แต่ถ้าเป็นการอ่านแบบอเมริกันแล้ว อย่าใช้ Double นะครับ แต่ให้อ่านตัวนั้นซ้ำไป 2 ครั้งเลย
เช่น spoon (คนอังกฤษ อ่านว่า S-P-ดับเบิ้ลโอ-N แต่คนอเมริกัน อ่านว่า S-P-โอ-โอ-N)
ไตรภพ
Santa Cruz, Calif.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น