สมัยเด็กๆ ท่านที่เคยเป็นลูกรักลูกชัง ลูกคนโปรด หรือเป็นลูกคนเดียว ท่านมักจะเป็นลูกแหง่ของพ่อแม่ มีอะไร ต้องการอะไรพ่อแม่มักจะทำให้หรือประเคนให้หมด อยากได้อะไรเอ่ยปากอ้อนแค่ 2 คำก็ได้ หรือไม่งั้นแกล้งลงไปนอนดิ้น 2 ที พ่อแม่ก็เป็นอันต้องประเคนให้ทันที
ลูกแหง่มักจะโดนตามใจจนเคยตัว ถูกตามใจจนเสียเด็ก (ภาษาอังกฤษ เรียกว่า spoiled) เด็กประเภทนี้มักมีนิสัยที่ชอบทำอะไรตามใจตนเอง ไม่ค่อยฟังคนอื่น เข้ากับใครไม่ค่อยได้
ภาษาอังกฤษ มีคำว่า “ลูกแหง่” 2 คำ คือ daddy’s girl และ mama’s boy
ทั้ง 2 คำนี้ มีความหมายลึกๆ ไม่เหมือนกันนะครับ
daddy’s girl หมายถึงลูกสาวที่เป็นลูกแหง่ของพ่อ ลูกผู้หญิงนี้มักจะใกล้ชิดสนิทสนมกับพ่อมากกว่าแม่ ลูกสาวจะเอาอะไรก็มักจะอ้อนจากพ่อ โอ๋จากพ่อ daddy’s girl จึงมีความหมายไปทางจุ๋มจิ๋มๆ น่ารักๆ
ส่วนคำว่า mama’s boy (บางครั้งเรียกว่า mother-bonded) หมายถึงเด็กผู้ชายหรืออาจหมายถึงผู้ใหญ่แล้วก็ได้ ไม่เชิงมีความหมายใกล้เคียงกับคำว่า daddy’s girl ความหมายก็คือลูกชายที่ติดแม่ มีความต้องการอยู่ใกล้แม่ตลอดเวลา มีอะไรแม่ทำให้หมด มีลักษณะส่วนตัวขี้อาย ขี้ฟ้อง ความหมายนี้ออกไปทางลบมากกว่า เช่น โดนเพื่อนว่านิดว่าหน่อย หรือโดนชกแค่หมัดเดียว ถลาไปหาผู้เป็นแม่ให้ปกป้องทันที
Tom’s classmates always call him a mama's boy because he runs home with every little problem.
(เพื่อนร่วมห้องของทอมมักจะเรียกทอมว่า “ลูกแหง่ของแม่” เพราะทอมมักจะหนีกลับบ้านเสมอแม้เผชิญปัญหาเล็กน้อย)
ไตรภพ
Santa Cruz
สวัสดีค่ะ คุณไตรภพได้ให้ความหมายไว้ถูกต้องทั้ง daddy's girl และ mama's boy แต่เกรงว่ายังไม่ครบถ้วนค่ะ เพราะจริงๆ แล้ว คำว่า daddy's girl มีความหมายอยู่สองแง่ ไม่ใช่แค่ ลูกแหง่ เท่านั้น อ้างอิงจากเว็บนี้ค่ะ
ตอบลบhttp://www.wisegeek.com/what-is-a-daddys-girl.htm
(:
daddy's girl คือ เธอเป็นลูกสาวของพ่อ และ เธอต้องเป็นของพ่อ
ตอบลบ