ขึ้นศาลเมืองฝรั่ง
ไตรภพ USA
เรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลไม่มีคนไทยคนไหนชอบ ถึงกับมีสุภาษิตว่าเป็นความกัน ไปทะเลาะกับคุณสุนัขยังจะดีกว่า
ยิ่งขึ้นโรงขึ้นศาลในต่างประเทศด้วย ไม่ต้องพูดถึง ..... ขี้ขึ้นสมองเลย
ครับ ผู้เขียนเองก็เป็น เพียงแต่ขึ้นไปไม่ถึงสมอง คงไม่ติดอยู่แถวๆลูกกระเดือกนั่นเอง
อิๆๆๆๆ
การไปโรงไปศาลหรือไปขึ้นศาล ภาษาประกิตเรียกว่า go to court อันนี้หมายถึงไปขึ้นศาลเพราะเราเป็นโจทก์ฟ้องหรือถูกฟ้องเป็นจำเลยนั่นเอง อันนี้ขอให้สังเกตว่า คำว่า court จะไม่มี the นำ เข่น
แต่ถ้าไปศาลที่เป็นตัวตึกหรือไปศาลเพราะธุระอย่างอื่น คำว่า court จะต้องมี the นำหน้าเสมอ เช่น
- I’m going to the courthouse. กรณีนี้หมายถึงกำลังจะเดินทางไปศาล แต่ไม่ได้หมายถึงไปขึ้นศาล แต่ไปทำธุระอย่างอื่น เช่น ไปรับแฟน
การพิจารณาคดี เรียกว่า trial อ่านว่า ทรัย-เอล
คดีความในภาษาอังกฤษเรียก a case หรือ a lawsuit ส่วนการจะฟ้องร้องหรือร้องเรียนกันเราใช้ว่า file (ไฟ-เอล) เช่น
file a lawsuit หรือ file a suit แปลว่านำคดีไปฟ้องร้องยังศาล
file a complaint หมายถึง ร้องทุกข์
ส่วนคำว่า sue ก็แปลว่าฟ้องคดีเช่นกัน แต่เนภาษาพูดที่ชาวบ้านเขาพูดกัน เช่น
- If you touch me, I’ll sue you. (แตะต้องตัวชั้นเมื่อไหร่ ฉันฟ้องทันทีเลย) คำๆนี้จได้ยินได้ฟังบ่อยมากในหนังฝรั่ง แสดงว่าสังคมอเมริกันอะไรๆ ก็ฟ้องแหลก
หรือที่ได้ยินบ่อยๆ ก็คือ I want to sue my neighbor.
ชั้นอยากจะฟ้องเพื่อนบ้านของชั้นซะจริงๆ
อันนี้จริงขอรับ เพราะฝรั่งเพื่อนบ้านมันช่างสอดรู้สอดเห็นจริงๆ คุณยายแมรี่ข้าบ้านผู้เขียนชอลชะโงกข้ามรั้วมามองในเขตบ้านผู้เขียนบ่อยๆ
..... บางครั้ง บอกผู้เขียนว่าทำไมยูไม่ทำอย่างนั้น ทำไมไม่ทำอย่างนี้
None of your business. (ไม่ใช่กงการอะไรของยู)
ผู้เขียนคิดในใจดังลั่น ไม่ไม่มีเสียงปริออกมาจากปาก
Yeap! I’ll do it. ครับ เดี่ยวไอจะทำตาม
ก็ตอบๆไปอย่างนั้นแหละ เอาใจเพื่อนบ้าน เพราะไม่งั้นผิดใจอะไรกัน พี่แกโทรไปแจ้งตำรวจหรือซิตี้เอา
...... ผู้เขียนงี้โดนบ่อย
วกมาดูเรื่องโรงๆศาลๆต่อ
คดีแพ่ง เรียกว่า civil case ฉะนั้น ถ้าเป็นศาลคดีแพ่ง ก็จะเรียกว่า Civil Court
ส่วนคดีอาญา เรียกว่า Criminal Case ส่วนศาลอาญา ก็คือ Criminal Court
คราวนี้มาดูคู่กรณีกัน
ฝ่ายฟ้องร้องหรือโจก์ เรียกว่า plaintiff ส่วนฝ่ายถูกฟ้องก็คือ จำเลย หรือ defendant ซึ่งมาจากคำกริยาว่า defend (ป้องกัน) เพราะในความหมายของการเป็นจำเลยต้องมีการป้องกัน แก้ต่างหรือแก้ข้อกล่าวหานั่นเอง
คนสำคัญอีกคน ก็คือทนายความ จะใช้ Lawyer ก็ได้ หรือ Attorney หรือ Attorney-At-Law ก็ได้ เช่น a defense attorney คือ ทนายจำเลย เพราะทำการแก้ต่างให้จำเลย
ส่วนพนักงานอัยการเรียกว่า Prosecutor อัยการมีเฉพาะในคดีอาญาเท่านั้น เพราะถือเป็นคดีความแผ่นดิน
ส่วนบุคคลอื่นๆ ในศาลก็เช่น
Judge คือผู้พิพากษาซึ่งทำหน้าที่ในการพิจารณาคดี
Jury ลูกขุน ที่อเมริกาการพิจารณาคดีต้องมีลูกขุนเสมอ ทำหน้าที่ค้นหาข้อเท็จจริงในคดีนั้นๆ ในคดีอาญาต้องมีคณะลูกขุนเสมอ ส่วนคดีแพ่งส่วนใหญ่ไม่ต้องมีลูกขุน ยกเว้นบางคดี
ลูกขุนคนเดียว เรียกว่า Juror
แต่ถ้าเป็นคณะลูกขุนทั้งชุดแล้ว เรียกว่า a jury
A third party คือบุคคลที่สาม
วันนี้ คงพอแค่นี้ก่อน เพราะเรื่องในโรงในศาลเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาว คงต้องร่ายกันหลายตอน
สวัสดีครับ